สมศักดิ์ศรี ซน ฮึง-มิน คว้ารางวัดสุดยอดผู้เล่นปี 2020
1 min readสมศักดิ์ศรี แนวรุกชาวเกาหลีใต้ของสมาคมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กลุ่มมีชื่อจากเกาะอังกฤษ
สมศักดิ์ศรี ผงาดคว้าตำแหน่ง เดอะ เบสต์ ระหว่างชาติ เพลเยอร์ 2020 ของเอเอฟซี โดยชนะด้วยผลโหวต 25.03 % ด้านทาคูมิ มินามิโนะ จากหงส์แดง ติดอันดับ9 ด้วยผลโหวต 0.56%
โดย ซน ฮึง-มิน ได้รับรางวัลผู้เล่นเยี่ยมยอดที่ปีของ AFC International 3 ยุคติด ได้รับการยินยอมรับในปีนี้ ด้วยผลงานดีเลิศซึ่งเขาทำประตูให้ชมรมได้ 22 ประตู โดยประสานงานที่สุดยอดกับ แฮรี่ เคน ดาวยิงกลุ่มชาติอังกฤษ เจ้าตัวยังรับการโหวตให้เป็นผู้เล่นดีที่สุดที่ของพรีเมียร์ลีกในตุลาคมปีที่ล่วงเลยไป
รางวัลนี้เป็นรางวัลปัจจุบันของ ซน ฮึง-มิน โดยก่อนหน้านี้ ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมที่ปี 2019-20 ของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นผู้เล่นเยี่ยมที่ปี 2020 ของเกาหลีใต้ และก็แปลงเป็นเพียงแค่ผู้เล่นเอเชียผู้ที่สองที่ได้รับรางวัล ปุสกัส อวอร์ด รายปี 2020 อีกด้วย บ้านบอล
ด้วยความโด่งดัง แล้วก็ทรัพย์สินที่เขาได้รับ บางทีอาจบอกได้ว่า เขาสามารถมีทุกอย่าง เท่าที่ตนเองอยาก เขามีเงินค่ารวมกว่า 25 ล้านปอนด์ หรือราว 927 ล้านบาท มีรถหรูคู่ใจ มีอติดอยู่เดมีขนาดยักษ์ เป็นของตนเอง ในประเทศภูมิลำเนา
แต่ว่าดูเหมือนจะมีสิ่งหนึ่ง ที่เขายังไม่อาจจะมีได้ เป็นเมียแบบเป็นตัวเป็นตน เมื่อเขาได้รับคำบัญชา ที่ไม่อาจจะไม่ยอมรับได้ เป็นการห้ามสมรส จนกว่าเขาจะห้อยสตั๊ด เลิกเล่นบอลอย่างเป็นทางการ
เมื่อเขาให้กำเนิดลูกชาย ซนผู้พ่อก็เลยตั้งตนเป็นคุณครูคนแรก สอนวิชาบอล ให้กับลูกชาย ด้วยประสบการณ์ ในฐานะสมัยก่อนแผงหน้า พร้อมกันไปกับการฝึกหัดที่เข้มข้น ตามแบบฉบับประเทศเกาหลีใต้
“บิดาผมมีบททดลองเยอะแยะ” ซน ฮึง มิน กล่าว “เขาให้ผมเดาะบอล 4 ชั่วโมง ติดต่อกัน ห้ามตกพื้นเด็ดขาด ผมจำได้แม่นตอนไปสู่ชั่วโมงที่ 3 ผมมองเห็นลูกฟุตบอล เป็นสามลูก ผมมองเห็นพื้นเป็นสีแดง เนื่องจากเลือดไหลในดวงตา”
“ถ้าหากผมแสดงอาการเหนื่อย ให้เขามองเห็น เขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟๆเลย” ซึ่งเจ้าตัวก็การันตีหนักแน่นว่า สามารถเดาะบอลตลอด 4 ชั่วโมงโดยที่ไม่ตกพื้นได้จริงๆ
สมศักดิ์ศรี “ตอนผมอายุประมาณ 10 ถึง 12 ขวบ บิดาของผม มาสมัครเป็นผู้ฝึกสอนบอล ในสถานศึกษาของผม” ซน ฮึง มิน เล่าอีกประสบการณ์ฟุตบอลกับคุณพ่อ “พวกเราจะมีโปรแกรมฝึก อยู่แบบหนึ่ง เป็นให้ทุกคนในกลุ่ม เดาะบอลไว้ 40 นาที ห้ามตกลงมาเด็ดขาด”
“คุณรู้ไหม หากสหายผมทำบอลตก เขาไม่ว่าอะไรเลยจ้า แต่ว่าถ้าเกิดผมทำบอลตก เขาจะสั่งให้ทุกคน เริ่มเดาะบอลใหม่อีกที ย้อนไปในช่วงเวลานั้น มันไม่ง่ายเลย กับเรื่องอย่างงี้”
ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งโต ดื้อ อึง จอง ยังคงอยู่เคียงคู่ลูกชาย เพื่ออบรมไม่เคยขาด ถึงแม้ในวันที่ ซน ฮึง มิน ก้าวเป็นผู้เล่นระดับนานาชาติ ซนผู้พ่อเดินทางไปกลับ ระหว่างเกาหลีใต้ กับอังกฤษอยู่ตลอด เพื่อบอกข้อกำชับ การเป็นนักฟุตบอลที่ดี ไม่มีความต่างจากในวันวาน ใจเย็นเป๊ปเตือน
ท่ามกลางกฎระเบียบมากมาย ที่ซนผู้พ่อ วางไว้ให้ลูกชายกระทำตาม มีกฎข้อหนึ่ง ที่ได้รับความสนใจจากสื่อบอลที่อังกฤษ ภายหลังแก่นแก้วผู้ลูก ให้สัมภาษณ์ว่า พ่อสั่งห้ามเขาสมรส จวบจนกระทั่งจะเลิกเล่นบอลอาชีพ
สมศักดิ์ศรี “ดื้อ สามารถสมรสได้ในทันที จากที่เขาอยากได้ ภายหลังที่เขาเลิกเล่นบอล” แก่นแก้ว อึง จอง กล่าว “ผมเป็นคนบอกเขาเอง ให้ทำอย่างนี้ ผมพูดเด่นชัด ยื่นคำขาดเลย”
“ผมมองเห็นดาวรุ่งมากมาย ที่เคยมีฝีเท้าที่กล้า พอมีครอบครัว ผลงานก็ตกลง ไม่มีผู้ใดจำชื่อพวกเขาได้อีกต่อไป ประสบการณ์ที่ผมมองเห็นมา ผมนำไปคิดแผนให้กับลูก การแต่งงานหลังจากเลิกเล่นบอล เป็นเรื่องที่เหมาะสม”
“ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่บิดาบอกผม” ซน ฮึง มิน กล่าวเสริม “ผมอาจจะเลิกเล่น ตอนอายุ 33 หรือ 34 ปี หลังจากนั้นค่อยมีครอบครัว ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ที่ผมจะใช้เวลาในจุดนั้น”
สมศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตาม ถึงปากของ ซน ฮึง มิน จะพูดว่าการไม่แต่งงาน ก่อนเลิกเล่นบอล เป็นสิ่งถูก แต่ว่าจากความประพฤติของเขา มองสวนกับคำพูดอยู่ไม่น้อย
ทั้งคู่ครั้ง ที่ข่าวสารเดตถูกเผยออกมา ข่าวสารการเลิกรา ระหว่างซุกซนกับแฟนสาว จะตามมาอย่างเร็ว จนเคยถูกสื่อเกาหลีใต้ นำไปตีกระแสข่าวว่า ที่ซนต้องเลิกกับไอดอลสาวที่คบหากัน มาจากคำสั่งโดยตรง ของคุณพ่อ ซน อึง จอง
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ซนต้องเลิกกับแฟน ต้นเหตุอาจมิได้มาจาก ซน อึง จอง เสียทีเดียว เพราะในวงการไอดอลเอง ข่าวสารการเดตที่หลุดออกมา ไม่ใช่เรื่องดีต่อศิลปินเท่าไรนัก
สมศักดิ์ศรี ถึงจะไม่ได้เป็นกฎต้องห้าม เหมือนกรณีไอดอลญี่ปุ่น แต่ว่าถ้าเกิดไอดอลโดนจับได้ว่าออกเดต ความนิยมของนักแสดงอาจจะลดน้อยลงได้ ดังนั้นการออกข่าว ถึงการเลิกรากัน ก็เลยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เยี่ยม สำหรับไอดอล ในการรักษาความนิยมเอาไว้
โดยเฉพาะ ในเคสของ ซน ฮึง มิน กับ มินอา ที่ไอดอลสาว กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เมื่อปี 2014 ทำให้ข่าวการเลิกราของทั้งคู่คน ถูกปล่อยออกมา หลังจากข่าวสารเดตหลุดออกไป ในช่วงเวลาเพียงแต่ 3 เดือนเท่านั้น
มีบทคำสอนของขงจื๊อ หนึ่งเรื่องที่บอกว่า “ถ้าหากพ่อเป็นลักขโมย แล้วลูกไปแจ้งความจับพ่อ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูก เนื่องจากเป็นการปฏิบัติ ที่ทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว” สะท้อนให้มีความคิดเห็นว่า ครอบครัวมีความจำเป็นแค่ไหน ในความนึกคิดของขงจื๊อ แล้วก็ชุดความนึกคิดนี้ ถูกส่งต่อ เป็นพื้นฐานของคนภายในสังคมเกาหลีใต้
“ผมเป็นคนให้กำเนิดเขา ผมมีหน้าที่ต้องสอนเขา” ซนผู้พ่อเปิดใจกับสื่อในประเทศ “ผมไม่มีทางรู้เลยว่า เมื่อเขาเกิดขึ้นมาเขาจะมีความสามารถติดตัวมาแค่ไหน ผมถึงต้องสอนเขา วางแผนชีวิตให้กับเขา”
สมศักดิ์ศรี สำหรับ ซน ฮึง มิน การมีคู่ชีวิตเป็นตัวเป็นตน เป็นสิ่งที่เขาต้องรอคอยถัดไป โดยไม่รู้จะมาถึงตอนไหน ตราบใดที่เขายังหวดลูกหนังบนผืนหญ้าอยู่ ตามคำบอกกล่าวของคุณพ่อ และความเชื่อของเขา
แต่หากมองถึงชีวิต ของแข้งชาวเกาหลีใต้ รายนี้ เขายังมองแฮปปี้ดี ต่อให้ไม่มีคู่ชีวิตข้างกาย เพราะเขามีความรักจากครอบครัว รออยู่เคียงข้าง เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา ตลอด 27 ปี