ไม่ควรแพ้ “มูรินโญ่” เซ็งสเปอร์สโดนเลสเตอร์บุกทุบคาบ้าน

ไม่ควรแพ้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมแท็กติกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เผยตนไม่คิดว่าต้นสังกัดควรจะแพ้ในเกมที่รับมือ เลสเตอร์ ซิตี้

ไม่ควรแพ้ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัการทีมชาวโปรตุกีสของ ท็อตแน่ม ฮ็อทเสปอร์ เปิดใจหลังจากที่ทัพ “ไก่เดือยทอง” เปิดบ้านแพ้ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ที่สนามท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา

ในช่วงนาทีที่ 45+2 เลสเตอร์ ได้จุดโทษจากจังหวะที่ แซร์จ ออริเย่ร์ ชนใส่ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินย้อนมองวีเออาร์แล้วเป่าให้จุดโทษ ก่อนจะเป็น เจมี่ วาร์ดี้ รับหน้าที่ฆ่าเข้าไปไม่พลาดให้ เลสเตอร์ ขึ้นนำก่อน 1-0 แล้วจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ จากนั้นในนาทีที่ 59 วาร์ดี้ โหม่งบอลไปชนแข้งของ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป

จบเกมทัพ “สุนัขจิ้งจอก” บุกมาชนะ 2-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญได้อย่างสุดยอดและขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงมี 27 คะแนนตามหลัง หงส์แดง ผู้นำฝูง 4 แต้ม โดยหลังจบเกม พูดว่า “พวกเราเริ่มได้ไม่ดีเลย ผมสามารถชี้ผลงานของนักเตะแต่ละคนได้แม้กระนั้นผมไม่ทำ พวกเรามีช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมในช่วงครึ่งแรก ในระหว่างที่พวกเราควบคุมเกมเอาไว้ได้หมด และได้โอกาสถึง 2 ครั้งที่จะยิงประตู”

“ครึ่งแรกพวกเราคาดหวังว่าสกอร์อาจจะ 0-0 จากนั้นคุณก็กลายเป็นทดลอง 0-1 ในครึ่งหลังพวกเราดันยิงเข้าประตูตัวเองถึงแม้ว่าพวกเราครองเกมเอาไว้ได้หมด และก็พวกเราสร้างจังหวะได้มากมาย โน่นยิ่งทำให้พวกเราต้องเจอกับความเหนื่อยยาก ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเราออกมาด้านบวก (แคสเปอร์) ชไมเคิ่ล มีจังหวะเซฟสำคัญมากๆ2 ครั้ง แม้กระนั้นท้ายที่สุดเกมนี้พวกเราแพ้เพราะเหตุว่าเสียจุดโทษกับทำเข้าประตูตัวเอง”

“หากมองดูจากผลการแข่งขันดูเหมือนคู่ปรับของเราควบคุมเกมหรือทำผลงานได้ดีกว่าพวกเรา แม้กระนั้นโน่นไม่ใช่ความเป็นจริงเลย ฟอร์มการเล่นของพวกเราไม่ดีนัก แม้กระนั้นมันมิได้ดูเหมือนพวกเขาเหมาะสมที่จะชนะหรือพวกเราควรแพ้ มันเป็นเกมที่แย่มากๆ” นายใหญ่เลือดฝอยทองคำ กล่าว บ้านบอล

โชเซ่ นายใหญ่ชาวโปรตุๆกีสของ สเปอร์ส ประกาศจุดยืนแจ่มชัดว่าผลการแข่งขันมีความสำคัญที่สุด ภายหลังโดนสื่อจี๋จุดถามเกี่ยวกับเรื่องสไตล์การเล่นที่จะประยุกต์ใช้ในแมตช์ปะทะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมลีกช่วงสุดสัปดาห์นี้

ผู้จัดการทีมจอมแท็กติกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรดังที่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงสวนกลับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสไตล์การเล่น “ไก่เดือยทองคำ” โดยเน้นจุดยืนอย่างชัดเจนว่าผลการแข่งขันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด

สเปอร์ส พึ่งจะเสียท่าให้กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 1-2 ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมลีกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ผู้ร่วมทีมของมูรินโญ่มีสถิติด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดในการครอบครองเกม แม้กระนั้นในขณะเดียวกันพวกเขาเป็นกลุ่มที่สร้างจังหวะจะแจ้งมากยิ่งกว่าเจ้าบ้าน

จากสถิติแสดงให้เห็นว่า “เดอะ เร้ดส์” สามารถผ่านบอลเข้าไปในพื้นที่ในที่สุดของ สเปอร์ส ได้ทั้งผอง 200 ครั้งเวลาที่กลุ่มเยี่ยมทำเป็นเพียงแค่ 19 ครั้งเท่านั้น แต่ “เฮียมู” ซึ่งไม่ปกปิดความรู้สึกที่ผิดหวังกับผลการแข่งขัน รับรองว่า สเปอร์ส เป้นที่ที่เล่นได้ดุเดือดกว่ารวมทั้งอย่างน้อยควรสำเร็จเสมอ แต่ว่าท้ายที่สุดแปลงเป็นผู้แพ้

ด้วยผลงานในเกมล่าสุดทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับสไตล์การเล่นที่เขาที่จะนำมาใช้ในเกมเปิดบ้านจัดการ “สุนัขจิ้งจอก” ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยเจ้าตัวบอกว่า “ผมไม่รู้จักนะ ผมมิได้อ่านอะไรมากนักข้างหลังเกมนั้น (แพ้ หงส์แดง) ทั้งปวงที่ผมทราบก็คือพวกเราแสดงผลงานได้ดิบได้ดีเพียงใด ผมทราบดีว่าผล การแข่งขันตอนจบเกม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จะให้พูดอะไรอีกละ ? มันจบไปแล้ว”

กุนซือ สเปอร์ส กำหนด ตนมิได้ รับเวลากับ มากพอ แม้กระนั้นเสริม ว่าตนมิได้มีปัญหาแตกแยกกับคนของ “ปีศาจแดง” อะไร เพราะว่าทุกฝ่ายต่างก็แฮปปี้ กับการที่ตนกล่าวลาตรงนั้น

ไม่ควรแพ้ โชเซ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าส่วนตัวแล้วตนรู้สึกว่ามิได้รับเวลาทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากมายเท่าที่ควร

เข้าไปคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 รวมทั้งเพียงแค่ฤดูกาลแรก เขาก็พาทีม ได้ทั้งยังแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก กับ อีเอฟแอล คัพ ไปครอง แต่ว่าฤดูถัดมา “ปีศาจแดง” ในสมัยของเขา ก็จะต้องจบฤดูกาล แบบมือเปล่าจากการด้อยกว่าแชมป์อีกทั้งในลีกและก็ เอฟเอ คัพ ก่อนที่เจ้าตัวจะทำ ผลงานได้น่าผิดหวัง ในช่วงต้นฤดูกาล 2018-19 กระทั่งโดนปลดในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2018 ในที่สุด แฟนปืนทนอีกนิด

กุนซือชาวโปรตุกีสเผยว่า “ในตอนหนึ่งของอาชีพการคุมกลุ่มน่ะพวกเราไม่จำเป็นต้องการเวลามากมายก่ายกองเพื่อจะประสบความสำเร็จเลยแม้กระทั่งผมจะดำเนินการกับกลุ่มโด่งดังก็ตาม พวกเราเคยทำแบบนั้นได้กับที่ ปอร์โต้, อินเตอร์, เรอัล (มาดริด), เชลซี รวมทั้งอีกทั้ง 2 ยุคที่ เชลซี พวกเราบรรลุผลสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องใช้เวลานาน รวมทั้งผมก็มีความต้องการทดลองอะไรใหม่ๆรวมทั้งมีความปรารถนาฟั่นเฟือนๆที่ต้องการไปดำเนินงานในหลายประเทศ, บากบั่นที่จะชนะให้ได้, พยายามไปพบประสบการณ์ต่างๆในหลายๆประเทศด้วย ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมันเพอร์เฟ็คเพราะแนวคิดหลักในเวลานั้นเป็นการครองแชมป์มาครอง, บอกลากลุ่ม แล้วไปพยายามลองเรื่องใหม่ๆ”

“สโมสรแรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องการเวลาสำหรับการทำทีม แต่มิได้รับเวลา แบบนั้นมากพอคือตอนอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากว่าผมรู้สึกว่าผมจะต้องบอกลากลุ่มในช่วงเวลาที่ดำเนินโปรเจกต์ไปแล้วครึ่งทาง แม้กระนั้นตอนอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมก็ได้เรียนรู้ที่ จะนับถือการตัดสินใจ อย่างรวดเร็ว”

“เราทำในสิ่งที่ต้องทำ เราทำในสิ่งที่เราพอจะทำเป็น แล้วก็พวกเราก็ลืมอดีตกับเดินหน้าถัดไป ผมบอกลากลุ่มมาโดยที่ตนเองรู้สึกพอใจ ส่วนพวกเขาก็พอใจกับเรื่องนั้นเช่นกัน แล้วก็พวกเราก็มีความสัมพันธ์ต่อกันที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมสามารถบอกด้วยความภาคภูมิใจได้อยู่เสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมบอกลากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมก็จะยังมีความสัมพันธ์ที่ดีเลิศๆกับ ทุกคนของกลุ่มนั้น และ ยูไนเต็ด ก็เป็นอีก 1 แบบอย่างสำหรับเรื่องนั้น”